เด็กวิศวะพระจอมกับฝึกงานฝ่ายขาย Yellowpages Online จัดเต็ม 10 เดือนเน้น ๆ แบบไม่มีกั๊ก!!

ยินดีต้อนรับทุกท่านสู่ Blog ฝึกงานของเด็กพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่ยาวนานที่สุดในประวัติการณ์ อ่านที่เดียวครบจบทุกคำถาม

Blogนี้มีประโยชน์มาก ๆ สำหรับน้อง ๆ นักศึกษาในทุกชั้นปีที่กำลังจะหาที่ฝึกงาน และยังไม่สามารถตัดสินใจได้ว่าตนเองนั้นต้องการอาชีพอะไร?

หมายเหตุ : ขาดตกบกพร่องตรงส่วนไหนหรือสงสัยอะไร Add Facebook / Follow IG มาได้ครับ

เริ่มทำความรู้จักกันก่อนนะครับ

สวัสดีครับ ชื่อ นายชญานนท์ แดงอุไร ชื่อเล่น แสตมป์ ฝึกงาน ฝ่ายขาย ตำแหน่ง Digital Marketing Consultant Division โดยจะมีหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเยอะแยะมากมายเลยทีเดียว ทั้งในเรื่องของการทำเว็บไซต์หลังบ้านในส่วนของ Back end, การเขียนSEO, การจัดทำ Banner, การจัดทำภาพลายน้ำสินค้า, การทำโลโก้ของเว็บไซต์ลูกค้า, การทำแผนที่การเดินทางของลูกค้า, การถ่ายภาพสินค้านอกสถานที่, การทำสื่อโฆษณาต่าง ๆ และ หน้าที่ที่สำคัญที่สุดที่แตกต่างออกไปจากเด็กฝึกงานทุกคนคือ การได้รับประสบการณ์การขายงานเว็บไซต์กับลูกค้า ซึ่งทำให้ผมสามารถค้นพบแนวทางในอาชีพของตัวเองได้อย่างแท้จริง จากการพบปะกับกลุ่มลูกค้าในหลาย ๆ ธุรกิจสาขาอาชีพ(หากน้อง ๆ คนใดสนใจที่จะฝึกฝนด้านการขายเพื่อฝึกฝนการเป็น Sale ในอนาคตนั้น ตอนมาสมัครแนะนำให้กำหนดขอบเขตการทำงานให้แน่ชัดเลยครับ เพื่อที่จะได้มีเวลาในการทำงานอย่างทันท่วงที)

อ่านมาถึงตอนนี้แล้วคงคิดกันแล้วใช่มั้ยครับว่า 10 เดือนนี้มันได้รับอะไรมากมายหลายอย่างจริง ๆ ในส่วนของรายละเอียดงานและสภาพแวดล้อม สังคม การทำงานจริงเป็นยังไง จะเฉลยในหัวข้อถัดไปนะครับ อิอิ น้องคนไหนที่อ่านจนจบหรืออยากคุยถึงแนวทางของตัวเองทักมาบอกได้นะครับ5555

คำถามยอดฮิต

Q : ทำไมถึงฝึกงานนานจัง ตั้ง 10 เดือนเกือบจะครบปี นานกว่าคนผ่านโปร ไม่เคยพบเคยเจอ ?

A : ฝึกสหิจศึกษาปี 4 เป็นภาคบังคับครับทั้งหมด 14 หน่วยกิต ทุกคนต้องฝึก 10 เดือนมิฉะนั้นจะเรียนไม่จบ อันนี้โดนบังคับ5555

Q : ฝึกงานไม่ตรงสายแบบนี้ตอนแรกทำงานยากมั้ย ?

A : ทุกอย่างมีครั้งแรกเสมอครับ หากเราลองเปิดใจที่จะเรียนรู้มันก็ผ่านไปได้ด้วยดีแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยู่นานกว่าทุกรุ่นถ้าไม่เรียนรู้ก็ไม่รอดครับ

Q : งานเยอะมั้ย เวลาคิดงานไม่ออกทำยังไง ?

A : งานเข้าตลอดแล้วแต่ช่วงเวลาที่ Sale ไปขายงานมาได้ก็จะมีงานมาป้อนให้เราส่วนมาก 1 ชิ้นงานไม่ควรทำเกินครึ่งวัน

Q : ได้เงินมั้ย ?

A : ได้สิครับ ไม่ได้เงิน 10 เดือน พี่ไม่ทำ5555

Q : พี่ ๆ ฝ่ายขายรวมถึงฝ่ายOnline ที่เราติดต่อเป็นยังไงกัน ?

A : บอกตรงนี้เลยอย่างไม่โกหก ทุกคนใจดี เปิดใจรับน้องทุกคนไม่ว่าจะมาจากมอไหนก็ตาม ยินดีให้ความรู้ ให้คำปรึกษา ให้ของกิน ขนม ชาไข่มุก เครป ขนมปัง ผลไม้ อาหารญี่ปุ่นใต้ตึก สตาร์บัค เลี้ยงส้มตำ แถมมีกินเลี้ยงในแผนกอยู่ประจำทุกเดือน เนื่องในวันเกิดของใครก็ตามในแผนกขาย ของแต่ละเดือนนั้น ๆ กระทั้งเราฝึกงานจบก็ยังมีเลี้ยงส่งเราเลยด้วย อันนี้ประทับใจจริง ๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของฝ่ายขาย

รู้จักและมาฝึกงานกับ บริษัท เทเลอินโฟมีเดีย จำกัด(มหาชน) หรือ YellowPages สมุดหน้าเหลืองได้อย่างไร ?

หลายคนที่เห็นหน้าปกนี้อาจจะสงสัยว่า เอ๊ะ! ทำไมเด็กเสื้อช็อปแนวช่างมาฝึกงานอะไรที่บริษัททำเว็บไซต์ทำสื่อโฆษณากัน ข้อสงสัยนี้มีมาตลอดระยะเวลา 10 เดือนที่ฝึกนี้เลยก็ว่าได้ คำตอบที่แตมมักจะตอบกลับไปก็คือ การที่เราเรียนจบมาจากด้านใดด้านหนึ่งนั้น ไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานได้เสมอไป หากเรามีความรู้ทฤษฎีที่มหาลัยสอนในด้าน ๆ หนึ่งแล้วเราควรจะต้องมีอีกประสบการณ์ด้านอื่น ๆ ที่แตกต่างจากเพื่อนที่เรียนกันมาด้วยกัน ทำให้เราจะสามารถทำในสิ่งที่เพื่อน ๆ ไม่สามารถทำได้ ทีนี้เราก็จะสามารถหางานได้อย่างหลากหลายแล้วครับ ประกอบกับทางภาควิชามีหลักสูตรที่เกี่ยวข้องกับสายงานการตลาดอยู่คือวิชา Principle of Modern Marketing(030813341) ทำให้โชคดีได้มาฝึกงานสหกิจศึกษาในด้านนี้ ซึ่งตอนที่สมัครตอนนั้นมาเป็นเพื่อนกับเพื่อนที่จะสมัครเฉย ๆ ไม่ได้ตั้งใจจะมาสมัครเนื่องจากเราได้ฝึกงานในสายงานอุตสาหกรรมแล้ว แต่สุดท้ายก็เขียนใบสมัครไว้เฉย ๆ และได้เข้ารับการทำงานที่นี่เพียงคนเดียวในที่สุด อาจเป็นเพราะโชคชะตาพาเรามาเจอกันก็ได้

Resume สมัครฝึกงาน

ความรู้สึกตั้งแต่วันแรกของการฝึกงาน 3 มิ.ย. 62-วันสุดท้ายที่ฝึกงานจบ 31 มี.ค.63 สิริรวม 10 เดือนเต็ม ๆ

การสอบสัมภาษณ์งานโดยทั่วไปก็ไม่มีอะไรมาก ชิล ชิล ควรสอบกับพี่เลี้ยงหรือหัวหน้าที่จะควบคุมโดยตรงเท่านั้น ตอบแบบสบาย ๆ เลยครับ เป็นตัวเองที่สุด ไม่ต้องเกร็ง เราต้องตอบตามความจริง ตามความสามารถที่เราทำได้จริงกับทางหัวหน้าที่สัมภาษณ์เรา ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเรียนในรั้วมหาลัยก็ตามแต่เราอาจจะมีทักษะพื้นฐานอยู่แล้วบ้าง เช่นการตกแต่งรูปภาพ ในโปรแกรมPhotoshop ก็สามารถนำผลงานมาเพื่อประกอบความตัดสินใจในตอนสัมภาษณ์งานได้ ถึงแม้ว่าที่นี่จะไม่ได้ใช้แค่Photoshopเท่านั้น แต่ในโปรแกรมอื่น ๆ ถ้าน้อง ๆ มีความขยัน ใฝ่เรียนรู้ ก็สามารถเริ่มต้นฝึกฝนในโปรแกรมใหม่ได้ เพราะที่นี่จะมีพี่เลี้ยงที่คอยควบคุมและดูแลเป็นอย่างดีเยี่ยมเลยทีเดียว โดยมีพี่เลี้ยงชื่อพี่ไอ และ พี่ปู เลี้ยงขนม+เลี้ยงน้ำ+เลี้ยงสตาร์บัคใต้ตึกบ่อยมากกกก สร้างความรักความอบอุ่นและเป็นกำลังใจในการทำงานของน้องๆได้เป็นอย่างดี

เนื่องจากหลักสูตรที่มหาวิทยาลัยสอนนั้นไม่มีโปรแกรมที่เกี่ยวข้องกับการทำงานในด้านการตลาดเลย อาทิเช่น โปรแกรม Adobe Photoshop, โปรแกรม Adobe Illustrator ทำให้ในช่วงแรกนั้นอาจจะลำบากอยู่หน่อยในการทำงาน ซึ่งทำให้ต้องมีการฝึกฝนทบทวนจาก Youtube อยู่สม่ำเสมอในช่วงเวลากลับบ้านหลังเลิกงาน หรือหากไม่เข้าใจในเรื่องของการออกแบบอะไร ก็สามารถปรึกษาพี่เลี้ยงไอ ได้ตลอดเวลา เป็นพี่ที่ให้คำปรึกษาได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวในเรื่องของการทำกราฟิก ทำให้มีการฝึกฝนตนเองไปในตัวและพัฒนาทักษะการออกแบบ Banner ให้ดีขึ้นไปเรื่อย ๆ และในส่วนของพี่ปู เป็นพี่เลี้ยงโดยตรงที่คอยเลี้ยงดูและอบรมในเรื่องของงานที่ได้รับมอบหมายและการใช้ชีวิตให้ผ่านพ้นข่วงเวลาการฝึกงานในโลกกว้างและในสังคมที่เราไม่เคยพบไม่เคยเจอได้ เป็นสิ่งที่พี่เลี้ยงคอยช่วยเหลือเราอยู่ตลอดระยะเวลาที่ได้ฝึกงานอยู่ที่นี่ อันนี้ทำให้มีความปลาบปลื้มมาก ๆ จริง ต้องกราบขอบพระคุณมา ณ ที่นี้เลยครับ น้อง ๆ คนไหนเข้ามาฝึกงานที่นี่ขอให้ได้พบได้เจอสิ่งดี ๆ แบบที่พี่พบเจอนะครับ

พี่เลี้ยงคนที่ 1. คุณกันติยา วงศ์คำภู (พี่ปู)

พี่เลี้ยงคนที่ 2. คุณณัฐนันท์ สอนศรี (พี่ไอ)

ประสบการณ์และประโยชน์ที่ได้รับในแต่ละเดือน เป็นฉาก ๆ

- เดือนที่ 1 (มิ.ย.62) : ก่อนอื่นเลยต้องบอกว่าเดือนนี้เป็นเดือนแรกที่ทำงาน รับบัตรผ่านประตูเข้าตึกหายปรับ500 เก็บดีดีเลย55555 อยู่แบบน้องใหม่ ไม่มีประสบการณ์ มาวันแรกพี่เลี้ยงก็จะพาเราไปเทรนงานก่อน ทั้งเรื่องของโปรแกรมที่ต้องใช้ในงาน หรือกระทั้งลักษณะงานที่ต้องทำ และอีกอย่างคือเทรนการทำรายงานรูปเล่มวันจบ ซึ่งในภายหลังถูกเปลี่ยนมาเป็นการเขียนลง Blog นี้แล้ว ถือว่าน้องรุ่นหลังโชคดีไป รวมถึงเราด้วย ตอนเทรนพี่เค้าจะให้เราลองฝึกการ Di-cut ภาพก่อนเลยเป็นการลองภูมิหลังและสกีลของเรา หลังจาก Di-cut ภาพผ่านแล้วนั้น ก็มาลองทำแบนเนอร์ลูกค้าต่อ พี่เลี้ยงจะอยู่คุมตลอดว่าเราทำได้มั้ย ติดอะไรตรงไหน ไม่เข้าใจเราก็ถาม ถามคีย์ลัด ถามการจัดวาง ถามเรื่องของสีว่าเข้ากับสินค้ามั้ย ถามไปเถอะครับพี่เค้าใจดี ขนาดของแบนเนอร์ที่ได้ทำในเดือนแรกนั้นก็ มีตั้งแต่ขนาดเล็ก 960×400 px ไปจนถึงใหญ่ 2732×1200 px การออกแบบให้ลูกค้าแต่ละขนาดนั้นก็จะมีความยากที่แตกต่างกันออกไป นอกจากแบนเนอร์แล้วเราก็จะได้ทำลายน้ำภาพสินค้า, ทำโลโก้, ทำ Adsearch ตัวนี้คืองานวิบวับที่แล้วเอาไปในบนหน้าของเว็บเพื่อดึงดูดสายตา นอกจากงานในออฟฟิตแล้ว ยังได้ออกไปถ่ายงานกับ Sale ข้างนอกอีกด้วย เจ้าแรกที่ไปอยู่บางบัวทอง หลังจากกลับมาเริ่มสัปดาห์ถัดไป ถูก Sale คนหนึ่งใช้งาน ซึ่งมารู้ทีหลังทำให้น้อยใจเป็นอย่างมาก เรื่องคือปกติการจะส่งงานให้น้องฝึกงานทำงานทุกครั้งจะต้องผ่านพี่ปู ซึ่งเป็นพี่เลี้ยงของเราก่อนเสมอ แต่คราวนี้ Sale ให้เราทำโดยไม่ผ่านพี่ปูก่อน เพื่อเป็นการลัดคิว Sale ท่านอื่นที่มาตามคิว พอเค้ามาใช้งานเราก็ทำตามซึ่งงานนี้เป็นงานแก้ของเด็กฝึกงานรุ่นก่อนที่ออกไปก่อนหน้านี้ไม่นาน อาจจะไม่สวยหรือไม่ถูกใจก็ไม่ทราบได้ Sale ให้ออกแบบใหม่ทั้งหมด จนทำเสร็จส่งให้ Sale ปรากฎมาอีกเดือนนึงไปเช็คใน Job งานหลังบ้าน เอ๊ะ!! นี่มันไม่ใช่งานเรานี่หว่า เลยสืบรู้มาว่า Sale เอางานนี้ไปให้น้องอีกคนทำต่ออีกที แสดงว่าเค้าไม่ชอบในแบบของเราอีก แล้วมาให้เราทำใหม่ตั้งแต่แรกเพื่ออะไร สรุปคือทำงานค้างของฝึกงานคนเก่าฟรี บทเรียนนี้ก็สอนการใช้ชีวิตในองค์กรร่วมกับบุคคลอื่นได้เป็นอย่างดีเลย
- เดือนที่ 2 (ก.ค.62) : เดือนนี้ Sale ทุกคนจะมีการออกไปขายงานที่ต่างจังหวัดกัน เราจึงได้ทำการวางแผนการขายสำหรับภาคสนามในจังหวัดลพบุรี, สิงห์บุรี, สุพรรณบุรี โดยลักษณะงานรวมๆก็เหมือนเดิมคือทำแบนเนอร์และทำแผนที่เพิ่มขึ้น มีการออกไปถ่ายงานลูกค้าที่ งามวงศ์วาน ซฮย 5 สิ่งที่จะมีเพิ่มมาพิเศษเลยคือการได้เรียน เทคนิคการนำเสนอขายสินค้าให้ลูกค้า พร้อมที่จะรับมือในทุกสถานการณ์ การตลาดเพื่อเอาชนะคู่แข่งและการตลาดใน Google ออนไลน์ รวมถึงการเขียน Content ให้จับง่ายที่สุด
- เดือนที่ 3 (ส.ค.62) : เปิดมาวันแรกได้ไปศึกษางานการขายกับ Sale นอกสถานที่ ณ สมุทรปราการ เป็นการศึกษาวิธีการขายของจริงว่าเราจะพบเจอกับลูกค้าแบบใดและมีวิธีการรับมืออย่างในเพื่อจะขายงานนั้นได้มา
- เดือนที่ 4 (ก.ย.62) : เดือนนี้ไปศึกษาดูงานกับเซลล์ ณ สมุทรปราการ เป็นบริษัททำประตูรั้วจากไต้หวัน ไปถ่ายงานได้เลี้ยงข้าวฟรีอีกด้วย เพิ่มเรื่องแบนเนอร์มาหน่อย คือในเดือนนี้มีสินค้าใหม่ออกมา เป็นตัวแบนเนอร์ Hero คือแบนเนอร์ที่จะไม่ฝังข้อความไว้บนงานเป็นงานตัวใหม่ขนาด 2732×1080 px
- เดือนที่ 5 (ต.ค.62) : ถ่ายงานกับ Sale นอกสถานที่ ในเขตบางบอน เป็นบริษัทโลหะ และ ยังมีงานถ่ายภาพในออฟฟิตอีกด้วยเป็นสินค้า หมวก, ไม้แขวนเสื้อ, รางน้ำฝน โดยทำแบนเนอร์ควบคู่ไปด้วยตลอด สิริรวมตลอดระยะเวลาในครึ่งแรก ทำแบนเนอร์ไปทั้งสิ้น 170 ผลงาน

ผลงานแบนเนอร์รอบแรก

เดือนที่ 6 (พ.ย.62) : เดือนนี้มันส์ที่สุด เพราะได้ไปสัมมนา 2วัน1คืน ในหัวข้อพิชิตเป้าหมาย ณ จังหวัดกาญจนบุรี บอกเลยว่าเป็นประสบการณ์ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว การได้ไปทั้งเที่ยวผ่อนคลายและได้ความรู้ทักษะในด้านการขาย ตอนไปก็ตื่นแต่เช้ามืดที่ออฟฟิตจัดรถทัวร์ให้คันนึงเหมาไปกันเฉพาะฝ่ายขาย ระหว่างทางก็จะมีน้ำ ขนมแจกให้ และมีกิจกรรมแนะนำตัวกันบนรถ เพื่อเป็นการละลายพฤติกรรมกับทำความรู้จักกันมากยิ่งขึ้น โดยให้แต่ละคนแนะนำตัวพร้อมกับพูดคำคล้องจองที่เกี่ยวกับอวัยวะมาด้วย ของเราตอนแนะนำตัวคิดอะไรไม่ออกเพราะตอนนั้นคิดสระ แ-ม ยากมาก สักพักโดนเรียกออกไปเลยนึกขึ้นมาได้แบบกะทันหันมากว่า “ผมชื่อผมชื่อ แสตมป์ ผมชอบทา แยม ตรงอวัยวะ” เป็นเกมที่เหมือนเคยได้ยินตอนไปเข้าค่ายของมหาวิทยาลัย แต่ไม่เคยมีโอกาสได้เล่น ถือว่าการสัมมนาครั้งนี้สนุกสุด ๆ ไปเลย ละในระหว่างกิจกรรมก็ได้ทำอะไรหลายอย่างมากมาย หลังจากจบการสัมมนา เช่น การร่องแพ เล่นน้ำ ตกดึกก็มีงานเลี้ยง สังสรรค์ร้องเพลง เล่น เต้นกันไป แบ่งกันออกเป็น 5 ทีม แต่ละทีมก็จะมีธีมเป็นของตัวเอง ทีมเราแต่งตัวกันเป็นธีมเสือ ทีมอื่นก็คิตตี๊ Pikachu บ้างแตกต่างกันไป ถือว่ายุคนี้หาได้น้อยมากที่ออฟฟิตจะพาพนักงานออกไปสัมมนากันเนื่องจากเศรษกิจยุคแบบนี้การตัดค่าใช้จ่ายส่วนไหนได้ก็เป็นเรื่องที่ควรจะตัดเพื่อประหยัดกันไป แต่ที่นี่มีสัมมนา หลังจากกลับมาจากความสุขแล้ว เราก็กลับมาเข้าสู่โลกของความเป็นจริง กลับมาได้ 2 วัน ต้องกลับไปนำเสนอรายงานสหกิจศึกษาที่มหาวิทยาลัยว่าตลอดระยะเวลา 5 เดือนแรกเนี้ย เราฝึกได้อะไรมาบ้าง มีประสบการ์อะไรบ้างมั้ย แล้วหลังจากนี้ 5 เดือนสุดท้ายจะได้อะไรเพิ่มขึ้นหรือป่าว พอกลับมาก็มาทำงานแบนเนอร์ ต่อ
เดือนที่ 7 (ธ.ค.62) : การไปขายงานกับ Sale ที่ บริษัท วินเนอร์เปเปอร์ จำกัด ณจังหวัดอยุธยา พร้อมกับเซ็นสัญญาการทำเว็บไซต์ และถ่ายรูปสินค้ามาทำงาน Di-cut ทำงานเว็บไซต์ต่อไป
เดือนที่ 8 (ม.ค.63) : ทำแบนเนอร์ตามปกติ และได้มีการเทรนเพิ่มความรู้กับคุณอิทธิชัย (หัวหน้าฝ่ายขาย) อยู่ตลอดเวลา ออกไปถ่ายงานแถวบางแค
เดือนที่ 9 (ก.พ.63) : จัดทำเว็บไซต์หลังบ้านของลูกค้าให้เสร็จ และเทรนเรื่อง รู้หลักอัลกอริทึมของ Google กับคุณอิทธิชัย (หัวหน้าฝ่ายขาย)
เดือนที่ 10 (มี.ค.63) : เดือนสุดท้ายรีบเคลียงานทุกอย่างจนเสร็จสิ้น เป็นเดือนที่วุ่นวายมากที่สุดเพราะว่าช่วงนี้มีเหตุการณ์ของโรคระบาดเกิดขึ้นนั่นคือ โรคCovid-19 จึงทำให้ต้องเลื่อนวันจบของฝึกงานเป็นวันที่ 20 มี.ค. 63 และพร้อมจากลากัน มีการเลี้ยงส่งอาหารหลายหลาย อาทิเช่น พิซซ่า เค๊กไอศกรีม ขนม และมอบของขวัญที่ระลึกจากพี่พี่ อย่างอบอุ่น เป็นความทรงจำที่ดีกับตัวผมตลอดไป ส่วนผลงานรอบสุดท้ายเพิ่มอีกมากกว่า 200 ผลงาน เป็นทั้งหมดผลงานที่ทำมาตั้งแต่ใช้ชีวิตอยู่ที่นี่คือ 380 กว่าชิ้นงานเฉพาะแบนเนอร์

ผลงานแบนเนอร์รอบหลัง

ผลงาน Banner คร่าว ๆ 300+ ชิ้นงาน

ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ในการทำงาน

ก็ต้องบอกเลยครับว่าทุก ๆ การทำงานต้องมีปัญหาและอุปสรรคกันทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่เกิดขึ้นจากตนเองในช่วงแรก เนื่องจากความไม่รู้ในด้านต่าง ๆ และสิ่งใหม่ ๆ ทำให้ต้องเริ่มต้นและเปิดใจทำการเรียนรู้ใหม่ทั้งหมด หรือกระทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นจากสภาพแวดล้อม

เช่น ต.ย.1 การที่เราทำBanner ให้กับพี่ ๆ ฝ่ายขายนั้นจำเป็นที่จะต้องทำความเข้าใจในเรื่องของการออกแบบเป็นอย่างยิ่ง หากเกิดการบีฟงานที่ผิดพลาดหรือการสื่อสารที่ไม่ตรงตามความต้องการแล้วนั้น จะทำให้ลูกค้าไม่ชอบในการออกแบบที่ออกมาได้ ฉะนั้นแล้วทักษะการสื่อสารที่ได้นั้นก็ถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำงาน โดยรวมแล้วหากเรารู้แล้วว่าปัญหานั้นคืออะไรแล้วนำมาปรับปรุงทันที ก็จะสามารถให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ในที่สุด
ต.ย.2 การติดต่อหาลูกค้าในแต่ละครั้งนั้น เป็นเรื่องยากที่จะคาดการณ์ สภาพอารมณ์ของคู่สนทนา ณ เวลานั้นได้ ว่าลูกค้าที่เราจะไปติดต่อเสนอขายงานให้นั้นอยู๋ในโหมดที่พร้อมจะสนทนากับเราแล้วหรือยัง
ต.ย.3 การออกแบบชึ้นงานแต่ละชึ้นในแต่ละวันนั้น บางครั้งเกิดปัญหาสมองตัน คิดอะไรไม่ออก เราควรแก้ปัญหาโดยการเปิดหาเว็บไซต์สวยๆละจดจำสไตล์การทำมาละนำมาออกแบบใหม่เอง หรือออกไปเดินเล่นข้างนอกเพื่อให้ร่างกายสามารถผ่อนคลายได้เป็นอย่างดีทางหนึ่ง
ต.ย.4 อันนี้ปัญหาใหญ่ที่สุดเลย คือเรื่องสเปคของคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการทำงาน แตมได้ลองใช้มาทั้ง MAC และ PC แล้วทั้งหมด เนื่องจากการ Render ภาพหรือการนำเข้า-ออกไฟล์ภาพที่มีขนาดใหญ่ ๆ นั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้คอมพิวเตอร์ที่สามารถประมวลผลได้อย่างรวดเร็ว มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาที่คนทำงานกับคอมช้าจะมักจะหัวร้อนกันประจำคือ “not responding windows” ต่อมาจะให้เลือก Close the program หรือ Wait for program to respond หากเลือกอันแรกงานหายจบทันทีทั้งที่ยังไม่ได้ Saveงาน อันนี้งามไส้อย่างเดียวต้องทำใหม่ครับ หากกดอย่างหลังคือต้องอดทนรอโปรแกรมไปเรื่อย ๆ จนกว่ามันจะค้างไปเอง สรุปคือต้องทำใจว่าต้องทำใหม่แน่นอน บันเทิงเลยทีเดียว ทางแก้ปัญหาที่ดีคือควรทำโน๊ตบุ๊คที่เร็วและดีที่ใช้อยู่แล้วที่บ้านมากันเองครับ