สวัสดีค่ะ! ก่อนอื่นเราต้องขอแนะนำตัวก่อน เราชื่อ “ปอ” เด็กสาวจากย่านอโศกใจกลางเมืองนั่นก็คือมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตรนี่เอง แล้วเราฝึกตำแหน่งอะไรหรอ ตำแหน่งที่เราฝึกก็คือ Human Resource หรือ HR นั่นเองจ้า! บอกเลยว่าเราเนี่ยเป็นรุ่นบุกเบิกของนักศึกษาฝึกงาน HR อีกด้วย ทุกคนคงอยากรู้หล่ะสิว่าช่วงชีวิตฝึกงานของเราเป็นอย่างไร และเรามันรุ่นมันบุกเบิกยังไง อย่ารอช้า…ไปดูกันเลย
จุดเริ่มต้นของการมาฝึกงานของนางสาวปอ
ย้อนกลับไปตอนแรกเลยก่อนจะเริ่มมาฝึกงานที่นี่ เราอะตั้งใจไว้ว่าอยากฝึกสาย HR มาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่บอกเลย ณ ตอนนั้น เราหว่านแหสมัครมาก555 แต่ใจเราก็มาสะดุดที่นี่ทันที เพราะเป็นบริษัทที่เรารู้จักมาตั้งแต่เด็กๆ และเราก็คิดว่า “เอ้ย!น่าสนอะ คือแกบริษัทนี้อยู่มานานแบบนานมากๆ” เราเลยสนใจที่นี่เป็นพิเศษ แต่แล้วพี่ HR ก็โทรมาจ้า (พี่เค้าชื่อพี่เปี๊ยก ถ้าใครมาสมัครงานที่นี่ต้องรู้จักทุกคนแน่นอน เพราะเป็นพี่รีคูทของชาวเราที่นี่นั่นเอง) เค้าเรียกเราไปสัมภาษณ์ พอวางสายเท่านั้นแหละกรี๊ดเลย สุดแสนจะดีใจและตื่นเต้น เราเลยพยายามเตรียมตัวอย่างดี คิดไม่ตกตลอดเลยว่าจะ Proud to Present ตัวเองยังไงให้ปัง พอถึงวันสัมภาษณ์เราตื่นเต้นจนมือเย็นมาก ฉันนี่กลัวแทบตายแต่สำนวนนี้ต้องมาแล้วค่ะ “ใจกล้า สู้เสือ” เค้ามีแต่ใจดี แต่สถานการณ์นี้ต้องใจกล้าค่ะบอกเลย และนี่ก็ทำให้เราได้เข้ามาฝึกงานที่นี่จนได้ ตัวเราลอยสุดๆ ต้องขอบคุณพี่ๆ HR เลยที่เห็นถึงความใจสู้ของหนู
ชีวิตช่วงฝึกงาน
และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาของการฝึกงานจริงๆ กันแล้วค่ะทุกคน เราจะเอามาเฉพาะช่วงเวลาไฮไลท์ที่เราได้เจอนะ ไม่งั้นทุกคนได้อ่านกันตาแตกแน่นอน555
ต้องขอบอกก่อนว่าอาทิตย์แรกที่เราได้เข้ามาฝึกเป็นช่วงโควิดระบาดอยู่ เลยได้สัมผัสบรรยกาศการ Work Form Home ของบริษัท เพราะสลับกันมาเป็นอาทิตย์ วันแรกของเราเลยยังไม่เจอพี่เปี๊ยกที่ฉันเจอตั้งแต่แรกตอนสมัคร เจอแค่พี่ต่าย Specialist HR ของที่นี่ และเป็นพี่เลี้ยงหลักของเราด้วย ตอนแรกแอบกลัวพี่นิดหน่อย แต่พอวันแรกที่ได้คุยกันไปเรื่อยๆ เท่านั้นแหละพี่ใจดีกับเราและน่ารักด้วย แต้มบุญชั้นที่ 2 ของดิฉันเลยจ้า
วันแรกก็ได้งานมาเลย นี่แหละที่ฉันชอบให้ได้ทำงานจริงๆที่ไม่ใช่แค่งานจุกจิก เพราะมันได้เรียนรู้งานและใช้เวลาฝึกงานให้คุ้มค่า พร้อมออกไปเจองานจริงๆ ซึ่งงานที่เราได้ เรายังจำได้แม่นอยู่เลย คือ การลองคิดช่องทางการลงรับประกาศรับสมัครคนที่หลากหลาย ได้ทำโปสเตอร์ลงรับสมัครพนักงานที่ดึงดูดและสื่อถึงความเป็นองค์กร และได้เอาไปกระจายลงตามชุมชนต่างๆ ใน Facebook มากมาย (ใครเห็นโปสเตอร์เหลืองๆ หน้าตาแบบนี้ นี่แหละฝีมือเราเอง)
และตลอดทั้งอาทิตย์แรกเลยเราได้รับบทเป็นนางสรรหารีครูทโปรไฟล์พนักงานที่สมัครเข้ามา และได้รับผิดชอบการแจกหนังสือครบรอบ 30 ปี ของ AIS ที่เป็นบริษัทแม่ของเรา ได้ออกแบบที่คั่นหนังสือที่พร้อมด้วยถ้อยคำสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ทำงานแจกพร้อมกับหนังสือ บอกเลยว่าเป็นกิจกรรมที่น่ารักมาก เพราะหนังสือนี้เป็นหนังสือแห่งแรงบันดาลใจและวิธีทำงานดีๆ เราก็ได้นำไปแจกจ่ายให้พนักงานทั่วบริษัทเลย
สัปดาห์ที่ 3 ได้กลับมาทำงานที่บริษัทแล้วเย้! และช่วงโควิดก็ระบาดน้อยลงแล้วเราเลยได้กลับมาทำที่บริษัทแบบเต็มที่แล้ว เราก็บรับบทนาง HR หัวปั่นอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งนี่เป็นแค่ช่วงแรกๆ แต่พี่ก็จ่ายงานมาให้เราเรื่อยๆเลย เริ่มวางใจให้เราช่วยงานแล้ว ต้องบอกเลยว่ามันดีมากๆ ได้ทำหน้าที่เหมือนพนักงานจริง เพราะ มันทำให้ประสบการณ์เรามีมากขึ้นและรู้จักภาระงานที่ HR ต้องทำว่าเค้าทำอะไรกันบ้าง แถมยังได้ช่วยพี่ๆ ดูแลเรื่องงาน Training พนักงานใหม่ เราก็รับบทมาช่วยรันคิวและเฝ้าการอบรมให้ งานนี้นี่แหละดีงามมาก เพราะได้ฟังความรู้ของสายงานการตลาดด้วย เช่น การเขียน SEO, How To ทำเว็บไซต์ติดหน้าแรก และ การเขียน content
พอถึงช่วงเทศกาลตรุษจีนทางฝั่ง HR เราก็มีกิจกรรมที่น่ารักๆจัดให้กับพนักงานด้วย เรามีจัดทำน้องถุงใส่ส้มสีแดงพร้อมห้อยการ์ดอวยพร เพื่อสร้างความเป็นสิริมงคลให้โชค ผ่านคำอวยพรและของขวัญให้กับพนักงานทั่วทั้งบริษัทและถ่ายรูปร่วมกันเพื่อแสดงความอบอุ่นต่อกัน
อีกทั้งยังได้ร่วมออกแบบโปสเตอร์สร้างแคมเปญการ Walk In Interview เพื่อกระตุ้นให้คนที่เห็นเข้ามาสมัครงานในตำแหน่งที่ต้องการมากขึ้น แถมยังได้ฝึกการเข้าไปประสานงานประชาสัมพันธ์รับสมัครพนักงานกับมหาวิทยาลัยต่างๆ แถมเรายังได้เป็นส่วนหนึ่งของการ PR เรื่องงานเทศกาลวันสำคัญของบริษัทเราด้วย นั่นก็คือ…PR เทศกาลวันสงกรานต์ งานทำบุญเลี้ยงพระ เสริมศิริมงคลในวันสงกรานต์ ที่ให้พนักงานได้มีกิจกรรมร่วมกันใส่ชุดลายดอกหรือชุดผ้าไทยมาพร้อมกัน จนทำให้เกิดภาพบรรยกาศกลิ่นอายความเป็นไทยของงานขึ้นมา
ไม่เพียงแค่นั้นที่นี่ยังให้เราได้ฝึกทุกอย่างที่ HR ต้องทำ ได้เรียนรู้งานเกือบทุกอย่างของ HR เลย เรียกได้ว่าเราได้ทดลองมาเป็นพนักงานจริง ได้เรียนรู้ว่าตำแหน่งอื่นๆในบริษัททำอะไรกันบ้าง เพราะเราต้องเข้าใจงานฝ่ายอื่นเพื่อใช้ในการสรรหาและคัดเลือกคนเข้ามาทำงานด้วย ไม่ใช่ไม่ดีนะทุกคน “มันดีมาก!” แต่ก็ยังมีงานอื่นๆ อีกมากมายทีเราได้ลองทำและมาพัฒนาตัวเอง ที่เรามาฝากไว้ให้ทุกคนดู มันแค่น้ำจิ้มเท่านั้นแหละ เอาเป็นว่า…สรุปคือ ฝึกที่นี่คุ้มประสบการณ์สุดๆ
สิ่งที่ได้จากการฝึกงานครั้งนี้
- ความรู้ทางด้านรายละเอียดงานโดยภาพรวมของ HR
- ความรู้และเทคนิคทางด้านการสรรหาและคัดเลือกพนักงาน (Recruit)
- ได้ประสบการณ์ในการรับมือกับสถานการณ์จริงที่เจอในการทำงาน
- การสร้างกิจกรรมการสร้าง motivation ให้พนักงานตามเทศกาลต่างๆ
- ได้ฝึกทักษะกระบวนการการสื่อสารในการทำงาน
- สิ่งสำคัญคือได้ฝึกการทำงานร่วมกับผู้อื่นหลากหลายรูปแบบที่ต่างกันไป
- ได้เรียนรู้งานสายอื่นที่หลากหลาย
ความรู้สึกจากการฝึกงานครั้งนี้
อย่างแรกเลยเรารู้สึกว่าได้ชีชีวิตการฝึกงานที่สุดจะ Active และสนุกสนาน อีกทั้งเรายังชอบบรรยกาศการทำงานที่นี่เพราะ พี่ๆ น่ารักให้คำแนะนำเยอะแยะเลย รู้สึกถึงชีวิตของการทำงานจริงๆ (ก็ดีนะเสริมสร้างภูมิคุ้มกันความพร้อม555) ขอแอบเปรยว่าพี่ๆ มีพาไปเลี้ยงข้าวด้วยจ้า แถมซื้อขนมมาให้กินบ่อยมาก บางเช้าที่เรารีบลืมเอาข้าวมากิน ก็พึ่งใบบุญพี่ต่าย HR ของเรานี่แหละ เป็นพี่เลี้ยงของเราที่อยู่เบื้องหลังของอร่อยที่เราได้ และมีความรู้ใจเด็กฝึกงานอย่างเรา ซื้อขนมและน้ำที่เราชอบมาให้ แน่นอนชาเขียว Lover อย่างเรา ได้ชาเขียวอร่อยๆ มาก็ยิ้มสิ น้ำตาจะไหลสุดๆ ฮีลใจได้ก็เพราะน้ำและขนมจากพี่เลย
ข้อความทิ้งท้าย…ขอขอบคุณพี่ต่ายและพี่เปี๊ยกที่เลือกให้ปอได้มาฝึกงาน ขอบคุณทุกคำแนะนำและทุกความช่วยเหลือ และพี่บัว เลขา ที่ช่วยหนูตั้งแต่วันแรกเลย (ที่สำคัญขอบคุณสำหรับอาหาร น้ำ ขนมอร่อยๆจากพี่ๆด้วยค่ะ) และขอบคุณทุกความช่วยเหลือจากพี่ๆ ในแผนกอื่นๆ ของบริษัทด้วยนะคะ
เขียนโดย : อรปรียา ศรีสวัสดิ์เกตุ
ศึกษาอยู่ที่ : สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
E-Mail : onpriya.ppor@gmail.com
Facebook : Pararoar Por